ข้อสอบ Digital SAT จะมีการทดสอบไวยากรณ์ภาษอังกฤษ (grammar rules) โดยสิ่งที่น้อง ๆ ต้องทำ คือ อ่าน ระบุจุดที่ผิดพลาด และแก้ไขให้ถูกต้อง ฟังดูเหมือนจะง่ายแต่ถ้าไม่เตรียมตัวให้ดี จุดเล็ก ๆ เหล่านี้จะทำให้น้อง ๆ พลาดการเก็บคะแนนไปเยอะมาก เทคนิคสำคัญที่ช่วยให้น้อง ๆ ทำข้อสอบ SAT ภาษาอังกฤษได้อย่าวรวดเร็วขึ้นและถูกต้องมากที่สุด ก็คือการรู้จักและจับทาง Grammar ที่มักเจอบ่อยในข้อสอบ SAT ได้นั้นเอง
วันนี้ พี่ W Education ได้คัด SAT Grammar Rules ที่ถ้าฝึกทำโจทย์บ่อย ๆ แล้วละก็ รับรองว่าไม่มีพลาดในห้องสอบแน่นอน
1.Subject-Verb agreement >> การผันคำกริยาให้ตรงกับประธาน โดยพิจารณาว่าประธานของประโยคเป็น Singular (เอกพจน์) หรือ Plural (พหูพจน์) แล้วผันคำกริยาให้ตรงกับประธานนั้น ๆ ตามหลักการของ grammar และ tense
เช่น I am her daughter (Present Simple Tense)
She has been to many countries (Present Perfect Tense)
They won the competition (Past Simple Tense)
2.Pronoun-Antecedent agreement
บุรุษสรรพนามต้องสอดคล้องกับคำนามหรือสรรพนามที่กล่าวครั้งแรก
เช่น Jay finished his work at 10.
3.Possessives nouns >> กาทำคำนามให้อยู่ในรูปของการแสดงความเป็นเจ้าของ
3.1.คำนามเอกพจน์ (Singular Noun) สามารถใส่ ‘s ที่หลังคำนามนั้นได้ทันที เช่น a girl’s books
3.2. คำนามพหูพจน์ (Plural Noun) เนื่องคำนามพหูพจน์มีทั้งแบบที่เติม s กับ คำนามพหูพจน์แบบผิดปกติ (Irregular Plural Noun) ที่เปลี่ยนรูป ซึ่งทั้งสองแบบนี้มีวิธีการใส่ ‘s ที่ต่างกัน
– คำนามพหูพจน์ที่ลงท้ายด้วย s จะใส่ Apostrophe (‘) เพียงอย่าง เดียวท้ายคำนามพหูพจน์นั้น The students’ pencil, brothers’ cars
– คำนามพหูพจน์แบบผิดปกติ (Irregular Plural Noun) ที่เปลี่ยนรูปไป จากเอกพจน์ จะใส่ ‘s (Apostrophe + s) เช่น men’s, women’s, children’s, people’s
4.Verb forms >> คำกริยาในภาษาอังกฤษ ซึ่งจะแบ่งได้เป็น 5 รูป คือ
4.1.Base form (verb ช่อง 1) เช่น swim, hide, see
4.2.-s form เช่น swims, hides, sees
4.3.-ing form เช่น swimming, hiding, seeing
4.4.Past form (verb ช่อง 2) เช่น swam, hid, saw
4.5.Past participle form (verb ช่อง 3) เช่น swum, hidden, seen
5.Active vs. Passive
Active voice มีรูปแบบ subject, verb, object เช่น Mary throws the ball
Passive voice มีรูปแบบ object, verb, subject เช่น the ball is thrown by Marry
6.Word Choice
ข้อสอบจะให้เลือกคำที่เหมาะสมกับบริบทของประโยคที่สุด
จากลิสต์ของคำที่มีความหมายใกล้เคียงกัน
👉🏼 Mark worked on a farm for many years to sponsor his wife and kids, who stayed at home.
A) NO CHANGE
B) compensate
C) fund
D) provide for
Correct Answer is D
7.Punctuation
1.ใช้ comma [,]
👉🏼 ใช้คั่นระหว่างส่วนขยายกับประโยคหลัก
เช่น In Bangkok, There are many famous Thai restaurants.
👉🏼 ใช้คั่นส่วนขยายที่อยู่กลางประโยค
เช่น Jay, unlike his brother, likes playing a guitarist.
2.ใช้ colon [:]
👉🏼 ใช้เพื่อขยายความประโยคก่อนหน้า
เช่น I know why she looks so tired today: lack of sleep.
👉🏼 ใช้เพื่อวางหน้า list
เช่น I have been to four South East Asia countries: Malaysia, Singapore, Laos, and Vietnam.
3.ใช้ semicolon [;]
👉🏼 เพื่อเชื่อมสองประโยคที่ไม่มีคำเชื่อมแต่มีความหมายที่ เกี่ยวข้องกัน เช่น I love pop music; She likes Jazz.
4.ใช้ dash [–]
👉🏼 เพื่อเน้นข้อความที่แทรกทีหลังเพื่ออธิบาย
เช่น I passed the exam and won the running competition– It was a great day.
8.Idioms
พาร์ทนี้น้อง ๆ ต้องมีความรู้เกี่ยวกับสำนวนต่าง ๆ ในภาษาอังกฤษ
เช่น She doesn’t think she can win the competition, so she will throw in the towel.
*สำนวน Throw in the towel หมายถึง ยอมแพ้
コメント